ประวัติความเป็นมาของบ้านหญ้าปล้อง       

         บ้านหญ้าปล้อง   เป็นหมู่บ้านที่มีประวัติอันยาวนานมาเกือบ  500 ปี  ตามตำนานที่คนเฒ่าคนแก่เล่าสืบต่อกันมา  ซึ่งยังไม่    บันทึกไว้เป็นหลักฐาน  จากการสอบถามคนแก่อายุ 60 – 70 ปีในหมู่บ้านทราบว่าแต่ก่อนคนโบราณได้มีการบันทึกไว้เหมือนกัน  แต่ต่อมามีการรื้อศาลาการเปรียญ  รื้อโบสถ์  รื้อกุฏิ  หลักฐานต่างๆที่คนสมัยก่อนบันทึกไว้ได้สูญหายไปอาจจะเป็นเพราะว่า  คนสมัยปัจจุบันไม่ทราบหรืออาจจะมองไม่เห็นความสำคัญก็ได้  จึงไม่ติดใจที่จะรักษาไว้ 

ชาวบ้านหญ้าปล้อง  แต่เดิมเชื่อกันว่ามีเชื้อสายมาจากพวกส่วย  ซึ่งอพยพมาจากบ้านจังเกาเหล่าเดิม  ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอ  ขุขันธ์และบ้านจังเกานั้นบางคนเรียกบ้านตะเกาเหล่าเดิม   คำว่าจังเกาเป็นชื่อเครื่องประดับของสตรีมีลักษณะโค้งงอสอดไว้ในรูหูของสตรีเป็นเครื่องรางของขลังบ้านจังเกาเป็นที่รวมพวกช่างฝีมือดีทำพวกโลหะเช่นที่ใส่ปูนเคี้ยวหมาก  หรือแอบนวดความจริงทำมากกว่านี้  ต่อมาที่บ้านจังเกาเหล่าเดิมมีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น  การทำมาหากินฝืดเคือง  จึงจำเป็นต้องอพยพไปทำมาหากินที่แหล่งอื่นบรรพบุรุษของเราจึงรวบรวมพวกพ้องพี่น้องเดียวกัน  อพยพขึ้นมาทางทิศเหนือ  คงจะได้ยินข่าวจากผู้ที่เดินผ่านไปบอกว่าทางบึงนครศรีลำดวนคือที่จังหวัดศรีสะเกษปัจจุบันเป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์จึงได้พาญาติพี่น้องเดินทางขึ้นมา  ในการอพยพนั้นถ้าที่ใดอุดมสมบูรณ์ก็จะแบ่งแยกกันตั้งบ้านเรือนตามเส้นทางที่อพยพมาส่วนพวกที่เห็นว่าที่ดินยังไม่อุดมสมบูรณ์ไม่ถูกใจก็อพยพต่อไปเรื่อย ๆ  ในสมัยก่อนการเดินทางลำบากมาก   ถนนไม่มีต้องเดินหลีกดงไม้ใหญ่เพราะป่าไม้มีมาก   ส่วนที่มีอันตรายก็มีมากต้องระวังทุกเวลาถ้าหากพวกเราที่เป็นลูกหลานได้นึกสักนิดว่าแต่ก่อนบรรพบุรุษของเราต้องลำบากแทบเลือดตากระเด็นกว่าจะนำทางพวกเราได้มาอยู่ในที่แห่งนี้   จึงควรที่จะเทิดทูน  ระลึกถึงกราบไหว้บูชาเพราะบางคนมาไม่ถึงที่หมายถูกเสือกัดตายไปก็หลายคน   เป็นไข้ป่าตายไปก็จำนวนมาก   ในการเดินทางครั้งนี้คาดว่าคงจะมากันหลายครอบครัวกาเดินทางมากันเป็นจำนวนมากผู้นำทางจะต้องเป็นคนที่เข็มแข็งเป็นที่เคารพของทุกคน

ชาวบ้านหญ้าปล้องนั้นเป็นคนที่แข็งแรง  อดทน  มีมานะ   ได้เดินทางมาจนถึงโนนบ้านเก่าก่อนจะถึงที่ตั้งบ้านหญ้าปล้องปัจจุบันประมาณ  1.5  กิโลเมตรเห็นว่าที่ตรงนั้นเป็นทำเลที่เหมาะจะตั้งบ้านเรือนได้   บรรพบุรุษจากชาวบ้านจังเกาเหล่าเดิม   ซึ้งเดินทางมาถึงตรงนี้จากคำเล่าต่อๆกันมาว่ามีอยู่เพียง  3  ครอบครัวเท่านั้นที่เดินทางมาถึงตรงนี้ได้ก็ได้แยกย้ายกันสร้างบ้านเรือน  ชายที่แข็งแรงก็ตัดไม้มาสร้างบ้าน  หญิงก็เตรียมที่และอุปกรณ์เกี่ยวกับเครื่องเรือน  หุงหาอาหารที่โนนบ้านเก่ามีหนองน้ำที่อุดมสมบูรณ์ตลอดปีมีชื่อว่าหนองบุญมา   บางคนบอกว่าท้าวบุญมาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านเป็นผู้ที่ทุกคนเคารพนับถือทุกคนจึงอุตส่าห์ติดตามมาอยู่ด้วยคำว่าหนองบุญมานอกจากจะว่าท้าวบุญมาเป็นคนแรกที่นำชาวบ้านมาก่อตั้งแล้วบางคนบอกว่าน่าจะไม่ใช่เพราะคำว่าบุญมาน่าจะหมายถึงความว่าบุญอุ้มมา   หรือบุญอุ้มให้พวกเขาได้มาอยู่ที่นี่   ก็ว่ากันไปใครรู้มากกว่านี้ก็บอกผ่านมาด้วยจะได้ขยายความให้เพราะชาวบ้านเชื่อว่าคนมีบุญเท่านั้นจึงเดินทางมาถึงที่นี้ได้

            อย่างไรก็ตาม  ชาวบ้านอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว   เพราะได้กล่าวแต่ตอนต้นแล้วว่าที่บริเวณนี้เป็นดงเสือ   ท้าวบุญมาบอกว่าสู้กับสิ่งอื่นพอสู้ได้แต่สู้กับเสือต้องขอยอม

            ท้าวบุญมาจึงปรึกษาลูกบ้านทุกคนว่าพวกเราเห็นจะอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้วจึงชวนกันอพยพขึ้นไปทางเหนืออีก   พอเดินมาได้ประมาณ 1.5  กิโลเมตรก็มาพบหนองน้ำที่มีต้นหญ้าขึ้นปกคลุม   มีน้ำอุดมสมบูรณ์   มีต้นไม้รกหนามีต้นยาง   ต้นตะเคียน   ต้นยูง   เหมาะที่จะนำมาสร้างเป็นบ้านเรือนได้เป็นอย่างดี   และมีหนองน้ำที่จะใช้เป็นแหล่งทำมาหากิน   ใช้ดื่มกินและบริโภคเป็นทำเลที่เหมาะสมทุกประการสำหรับหนองน้ำที่พบมีต้นหญ้าชนิดหนึ่งขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากเกิดเป็นทิวแถวมองดูเขียวชอุ่มหญ้าชนิดนี้เรียกว่า “  หญ้าปล้อง “   ลักษณะของต้นหญ้าชนิดนี้คล้ายต้นตระไคร้ที่เกิดตามป่า   ลำต้นเป็นปล้องๆ   ตรงข้อของต้นหญ้ามีข้อเป็นปมโตคล้ายกำปั้นทุกข้อ  ต้นหญ้าสวยงามและมีมากลำต้นสูงประมาณ 1 – 2  เมตรท้าวบุญมาหรือบุญอุ้มมา   มองเห็นว่าที่แห่งนี้เป็นทำเลที่ดีมากเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงเลยเรียกชื่อหนองนั้นว่าหนองหญ้าปล้องแต่นั้นมา   จึงพาครอบครัวที่อพยพมาจากโนนบ้านเก่า 3 ครอบครัวความจริงจะมีมากว่านี้เพราะมาอยู่ที่โนบ้านเก่าปีเศษครอบครัวคงจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้  สมัยก่อนคนโบราณเชื่อไสยศาสตร์   นับถือเทวดาเจ้าป่าเจ้าเขาเมื่อมาพบทำเลที่อุดมบูรณ์ก็จะมีการทำพิธีหรือเสี่ยงทาย   ก็จัดเครื่องคาวหวาน  หมากพลูบุหรี่เลี้ยงเจ้าที่เพื่อบอกกล่าวและขออนุญาตนำลูกหลานมาขออยู่อาศัย   อย่าได้มารังควานขอให้ช่วยปกปักรักษาให้ทุกคนอยู่เย็นเป็นสุข

              หลังจากที่ได้ทำพิธีแล้วในคืนนั้นท้าวบุญมาได้ฝันไปว่ามีเทวดามาบอกว่าอนุญาตให้ทุกคนอยู่อาศัยได้   แต่ขอให้ทุกคนประพฤติปฏิบัติตนในสิ่งที่ดี   มีศีลธรรมอย่าทำร้ายหรือรังแกสัตว์แล้วทุกคนก็จะอยู่อย่างมีความสุข   หลังจากวันนั้นต่อมาท้าวบุญมาได้นำความฝันมาเล่าให้ทุกคนฟังและแจ้งให้ทุกคนจับจองหาที่อยู่ จัดสร้างบ้านเรือนให้เป็นหลักเป็นฐานสืบต่อไปและตั้งใจว่าจะไม่ยอมอพยพไปที่ใดอีกเพระทำให้ลูกหลานพี่น้องที่มาด้วยกันได้รับความลำบากมาก

              ที่ตั้งหนองหญ้าปล้อง     ปัจจุบันอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้าน  และคงจะเป็นเพราะเหตุนี้เองจึงตั้งชื่อบ้านว่า             “บ้านหนองหญ้าปล้อง”      แต่ต่อมาตอนหลังเห็นว่าเป็นชื่อที่ยาวเกินไปจึงเปลี่ยน ให้สั้นเข้าเรียกเป็น         “บ้านหญ้าปล้อง”         จนถึงปัจจุบันนี้                                

ประวัติโรงเรียนบ้านหญ้าปล้อง

โรงเรียนบ้านหญ้าปล้องก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่  8  เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2477 โดยนายทอง  จุนนารัตน์    ศึกษาธิการอำเภอเมืองศรีสะเกษ เป็นผู้ก่อตั้ง และใช้ชื่อว่า  “โรงเรียนประชาบาลตำบลหญ้าปล้อง ๒” ( วัดบ้านหญ้าปล้อง ) โดยแต่งตั้งนายหนู ภูริพัฒน์  เป็นครูใหญ่คนแรก มีนายเครื่อง  ยาธรรม เป็นครูผู้สอน มีหน้าที่จัดการเรียนการสอน มีนักเรียนในวันจัดตั้งเป็นชาย  54  คน หญิง 25  คน  รวมนักเรียน  79  คน โรงเรียนรับงบประมาณจากเงินงบประมาณช่วยการศึกษาประชาบาลบำรุง

การจัดการเรียนการสอน แบ่งออกเป็น 3 ชั้นคือ ชั้นประถมศึกษาปีที่1 – 3  การบริหารโรงเรียนได้พัฒนาขึ้นเป็นลำดับ จำนวนห้องเรียนเพิ่มขึ้น จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น ตลอดระยะเวลา 77 ปีที่ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบันมีผู้บริหารโรงเรียนทั้งสิ้น 17 คนโดยปัจจุบันมีผู้บริหารโรงเรียนคือ นายเอกอมร  ใจจง  ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียน โดยรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2547 

ปีการศึกษา 2537  โรงเรียนบ้านหญ้าปล้องได้รับการอนุมัติจากทางราชการให้เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาเป็นรุ่นแรกของจังหวัดศรีสะเกษ โดยเปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้น อนุบาลปีที่ 1 – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปัจจุบันมีนักเรียนจำนวนทั้งสิ้น 154 คน  เป็นนักเรียนชาย 99 คน  นักเรียนหญิง 80 คน  มีข้าราชการครูและบุคลากรจำนวนทั้งสิ้น 25 คน

 แยกเป็น ผู้อำนวยการโรงเรียน 1 คน   ข้าราชการครู 13 คน   พนักงานราชการ  1  คน ครูอัตราจ้าง 2 คน   ครูธุรการ 1 คน   นักศึกษาฝึกประสบการณ์ 5  คน นักการภารโรง  1  คน  แม่ครัว 1 คน

ประวัติโรงเรียนบ้านหญ้าปล้องเลือกเอาตามความเหมาะสมครับ

                โรงเรียนบ้านหญ้าปล้อง ตั้งเมื่อวันที่ 8  ตุลาคม  2477  สถานที่ตั้ง  หมู่ที่ 1  บ้านหญ้าปล้อง  ตำบลหญ้าปล้อง  อ. เมืองศรีสะเกษ  จ.ศรีสะเกษ  33000  มีเนื้อที่  8  ไร่  – งาน  93  ตารางวา  ประเภทโรงเรียน  เป็นโรงเรียนสหศึกษา  ระดับการศึกษาที่เปิดสอน  เปิดสอน  3  ระดับ  คือ

                –  ระดับก่อนประถมศึกษา

                –  ระดับประถมศึกษา

                –  ระดับมัธยมศึกษา

ผู้อำนวยการโรงเรียน  คือ  นายเอกอมร  ใจจง

มีครู อาจารย์  จำนวน  13  คน  พนักงานราชการ  1  คน  ครูธุรการ จำนวน  1 คน  ครูอัตราจ้าง  จำนวน  2  คน  มีนักเรียนทั้งสิ้น  จำนวน  154  คน

สภาพชุมชนโดยรอบ

                โดยที่โรงเรียนบ้านหญ้าปล้อง เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา (ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น)   จึงมีพื้นที่บริการครอบคลุมทั้งตำบลหญ้าปล้อง ดังนี้

ที่ตั้ง  อาณาเขต

                ทิศเหนือ                                           ติดเขต  ตำบลคูซอด

                ทิศตะวันออก                                     ติดเขต  ตำบลน้ำคำ

                ทิศตะวันตก                                       ติดเขต ตำบลหนองไผ่

                ทิศใต้                                               ติดเขต    เทศบาลเมืองศรีสะเกษ

                เขตพื้นที่บริการ    ตำบลหญ้าปล้องมีเนื้อที่ทั้งหมด  41.54  ตารางกิโลเมตร  จำนวนหมู่บ้านทั้งหมด  8  หมู่บ้าน  ได้แก่

ที่ชื่อบ้านหมู่ที่ชื่อผู้ใหญ่บ้านประชากร(คน)ครัวเรือน(หลัง)
1บ้านหญ้าปล้อง1นายประหยัด  พงศ์พีระ985219
2บ้านหญ้าปล้อง2นายประดิษฐ์  ศุภเลิศ986199
3บ้านสร้างเรือง3นายสมาน  บุญหวาน30268
4บ้านวังไฮ4นายสุบิน  บุญเชิด462162
5บ้านเอก5นายวิเชียร  ศิลาโชติ (กำนัน )812190
6บ้านโนนหล่อ6นายเสริมชัย  อินทรบุตร490131
7บ้านโนนแย้7นายสำ  น้อยมิ่ง872230
8บ้านโนนสำนัก8นางบุญจิรา  พิทักษา949426
รวม5,8581,625

ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

                ตำบลหญ้าปล้อง  มีสภาพพื้นที่เป็นที่ราบ ทางด้านทิศใต้ติดกับลำห้วยสำราญ และมีสภาพที่ดินเป็นดินร่วนปนทราย

ระหว่างโรงเรียนบ้านหญ้าปล้องและหมู่บ้านหญ้าปล้อง จะมีคลองอีสานเขียวไหลผ่านซึ่งจะมีน้ำขังเกือบตลอดทั้งปี

                สถานที่สำคัญในเขตตำบลหญ้าปล้อง คือ วัดสร้างเรือง ( วัดพระธาตุเรืองรอง ) โดยมีพระครูวิบูลธรรมภาณ                    ( หลวงปู่ธัมมา  พิทักษา ) เจ้าอาวาสวัดอมรทายิการาม ร่วมกับชาวบ้านสร้างเรืองเป็นผู้ตั้งขึ้น  ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดศรีสะเกษ และภาคอีสานตอนล่าง ตั้งอยู่บ้านสร้างเรือง หมู่ที่ 3 ตำบลหญ้าปล้อง  อำเภอเมือง  จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก และนักเรียนโรงเรียนบ้านหญ้าปล้องก็มีโครงการมัคคุเทศก์น้อยนำนักท่องเที่ยวชมพระธาตุในวันหยุดอีกด้วย

งบประมาณที่โรงเรียนได้รับ  3  ปีงบประมาณย้อนหลัง 

ที่ปีงบประมาณรายรับ
12551 
22552 
32553 

รายได้เฉลี่ย / คน / ปี  ของประชากรตำบลหญ้าปล้อง ปี พ.ศ.2558  เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย

ลำดับของตำบลชื่อหมู่บ้านรายได้เฉลี่ย / คน / ปี (บาท)
1หมู่ที่  8  บ้านโนนสำนัก47,549.56
2หมู่ที่  1  บ้านหญ้าปล้อง45,329.35
3หมู่ที่  2  บ้านหญ้าปล้อง44,458.91
4หมู่ที่  6  บ้านโนนหล่อ40,936.06
5หมู่ที่  4  บ้านวังไฮ38,611.26
6หมู่ที่  7  บ้านโนนแย้38,058.13
7หมู่ที่  3  บ้านสร้างเรือง37,595.64
8หมู่ที่  5  บ้านเอก34,782.53
เฉลี่ยรายได้ / คน / ปี ของตำบล40,915.18

ร้อยละของผู้ปกครองส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับ

ต่ำกว่ามัธยมต้นมัธยมต้นมัธยมปลายหรือเทียบเท่าต่ำกว่าปริญญาตรีปริญญาตรีสูงกว่าปริญญาตรี
83.268.415.7297.392.610.00

ผู้ปกครองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ (ให้ใส่เครื่องหมายถูกในช่องว่าง)  

อาชีพอาชีพของผู้ปกครอง
น้อยกว่าร้อยละ 20ร้อยละ 20-40ร้อยละ 41-60ร้อยละ 61-80มากกว่าร้อยละ 80
รับราชการ/    
ค้าขาย/    
เกษตรกร    /
รับจ้าง   / 
ไม่มีอาชีพ /    
อื่น………….     

ผู้ปกครองส่วนใหญ่นับถือศาสนา (ให้ใส่เครื่องหมายถูกในช่องว่าง)

ศาสนาศาสนาที่ผู้ปกครองนับถือ
ไม่มีน้อยกว่าร้อยละ 20ร้อยละ 20-40ร้อยละ 41-60ร้อยละ 61-80มากกว่าร้อยละ 80
พุทธ     /
คริสต์ /    
อิสลาม/     
ฮินดู/     
ซิกซ์/     
อื่นๆ/     

โอกาสและข้อจำกัดของโรงเรียน

รายการ
โอกาส(ดี/มีมาก)ข้อจำกัด(ด้อย/ไม่พอ)
1. อยู่ใกล้แหล่งเรียนรู้           1.1 วัดพระโต  วัดพระธาตุเรืองรอง วัดสระกำแพงใหญ่     1.2 โรงพยาบาลชุมชนบ้านสร้างเรือง    1.3 ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลหญ้าปล้อง    1.4 สถานีวิทยุ ชุมชนคนหญ้าปล้อง    1.5 สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ศรีสะเกษ    1.6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29    1.7 สถานีพืชสวนจังหวัดศรีสะเกษ    1.8 ปราสาทพระวิหาร      แหล่งเรียนรู้ใกล้ตัวมีมากมายก็จริง  แต่งบประมาณที่จะพานักเรียนไปยังแหล่งเรียนรู้มีอยู่อย่างจำกัด  แม้ว่าตั้งแต่การศึกษา 2552 เป็นต้นไป  รัฐบาลมีนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ  โอกาสที่จะพานักเรียนไปแหล่งเรียนรู้เหล่านั้นมีมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี